ห่วยสุด ๆ! เปิดตารางเทียบฟอร์มพรีเมียร์ลีกตั้งแต่โบห์ลีเข้าซื้อทีม

นับตั้งแต่ท็อดด์ โบห์ลีเข้ามาซื้อทีมเชลซีในช่วงเดือนพฤษภาคม 2022 ก็เรียกได้ว่าเชลซีมีฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันยังคงรั้งครึ่งอันดับล่างของตารางพรีเมียร์ลีก แต่เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลยว่าการบริหารของทีมผู้บริหารชุดนี้ย่ำแย่ขนาดไหน ขอนำเสนอตารางฟอร์มพรีเมียร์ลีกตลอด 67 นัดที่ผ่านมานับตั้งแต่เชลซีเปิดฤดูกาล 2022/2023 จนถึงปัจจุบัน

ตารางเทียบฟอร์มในศึกพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2022/23

*เฉพาะทีมที่ลงแข่งขันตั้งแต่ฤดูกาล 2022/23 จนถึงปัจจุบัน ไม่รวมทีมที่ตกชั้นหรือเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกในระหว่างนั้น ได้แก่ เลสเตอร์ ซิตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด, เซาธ์แฮมป์ตัน, ลูตัน ทาวน์, เบิร์นลีย์, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 152 คะแนน
2. อาร์เซนอล 148 คะแนน
3. ลิเวอร์พูล 131 คะแนน
4. เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 122 คะแนน
5. แอสตัน วิลล่า 117 คะแนน
6. ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส 113 คะแนน
7. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 111 คะแนน
8. ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน 104 คะแนน
9. ฟูแล่ม 90 คะแนน
10. เบรนต์ฟอร์ด 85 คะแนน
11. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 84 คะแนน
12. เชลซี 83 คะแนน ชนะ 22 เสมอ 17 แพ้ 26 ยิงได้ 85 ประตู เสีย 92 ประตู
13. วูลฟ์เวอร์แฮมป์ตัน วันเดอเรอส์ 82 คะแนน
14. คริสตัล พาเลซ 74 คะแนน
15. บอร์นมัธ 74 คะแนน
16. เอฟเวอร์ตัน 67 คะแนน
17. น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 63 คะแนน

ตารางการใช้/ได้เงินค่านักเตะ และตารางราคาเเต้ม 1 แต้ม

แน่นอนว่า ตัวเลขข้างบนอาจจะไม่สามารถถ่ายทอดความผิดหวังของแฟน ๆ เชลซีได้อย่างเต็มที่มากนัก เนื่องจากเชลซีใช้เงินซื้อนักเตะไปแล้วเกิน 1 พันล้านปอนด์ หรือเกิน 4 หมื่นล้านบาท แต่กลับไม่สามารถทำผลงานใด ๆ ในสนามได้เลย 

วันนี้ เราขอเสนอมาตรวัดผลงานทีมแบบใหม่ ด้วยการเทียบจำนวนเงินที่ทีมใช้ไป ได้คืน และผลกำไรหรือขาดทุน ก่อนจะนำมาคำนวณเป็นราคาที่ทีมจ่ายไปเพื่อคว้าแต่ละคะแนนในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สำหรับตัวเลขเหล่านี้ อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ตามฟอร์มของแต่ละทีมในฤดูกาล 2023/24 นี้ ซึ่งใครที่อยากจะเดิมพันกับฟอร์มการเล่นนี้ ก็สามารถแทงบอลออนไลน์เพื่อสร้างกำไรจากฟอร์มการเล่นของทีมเหล่านี้ได้

ตารางการใช้/ได้เงินค่าตัวนักเตะ

*เฉพาะทีมที่ลงแข่งขันตั้งแต่ฤดูกาล 2022/23 จนถึงปัจจุบัน ไม่รวมทีมที่ตกชั้นหรือเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกในระหว่างนั้น ได้แก่ เลสเตอร์ ซิตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด, เซาธ์แฮมป์ตัน, ลูตัน ทาวน์, เบิร์นลีย์, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

1. เชลซี ใช้เงิน 966.9 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 274.4 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 692.4 ล้านปอนด์
2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เงิน 384.2 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 51.4 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 332.8 ล้านปอนด์
3. อาร์เซน่อล ใช้เงิน 375.6 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 100.2 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 275.4 ล้านปอนด์
4. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ใช้เงิน 296.7 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 42.2 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 254.5 ล้านปอนด์
5. ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ใช้เงิน 373.3 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 144.4 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 228.9 ล้านปอนด์
6. น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ใช้เงิน 265.4 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 61.6 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 203.8 ล้านปอนด์
7. บอร์นมัธ ใช้เงิน 183.7 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 1 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 182.7 ล้านปอนด์
8. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ใช้เงิน 294.2 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 156.1 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 138.1 ล้านปอนด์
9. ลิเวอร์พูล ใช้เงิน 259.7 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 124.6 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 135.1 ล้านปอนด์
10. เบรนต์ฟอร์ด ใช้เงิน 101.7 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 8.4 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 93.2 ล้านปอนด์
11. แอสตัน วิลล่า ใช้เงิน 174 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 89.9 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 84.1 ล้านปอนด์
12. คริสตัล พาเลซ ใช้เงิน 77.7 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 5.7 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 72 ล้านปอนด์
13. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้เงิน 343.3 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 279.5 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 63.8 ล้านปอนด์
14. ฟูแล่ม ใช้เงิน 124.6 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 68.8 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 55.8 ล้านปอนด์
15. วูล์ฟเวอร์แฮมป์ตัน วันเดอเรอส์ ใช้เงิน 236.8 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 196.8 ล้านปอนด์ ขาดทุนสุทธิ 40 ล้านปอนด์
16. เอฟเวอร์ตัน ใช้เงิน 113.6 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 150 ล้านปอนด์ กำไรสุทธิ 36.4 ล้านปอนด์
17. ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ใช้เงิน 135.8 ล้านปอนด์ ได้คืนมา 302.4 ล้านปอนด์ กำไรสุทธิ 166.6 ล้านปอนด์

ตารางราคาแต้ม 1 คะแนน

*เฉพาะทีมที่ลงแข่งขันตั้งแต่ฤดูกาล 2022/23 จนถึงปัจจุบัน ไม่รวมทีมที่ตกชั้นหรือเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกในระหว่างนั้น ได้แก่ เลสเตอร์ ซิตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด, เซาธ์แฮมป์ตัน, ลูตัน ทาวน์, เบิร์นลีย์, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

1. คริสตัล พาเลซ ใช้เงิน 77.7 ล้านปอนด์ ได้ 74 คะแนน = จ่ายไป 1.05 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
2. เบรนต์ฟอร์ด ใช้เงิน 101.7 ล้านปอนด์ ได้ 85 คะแนน = จ่ายไป 1.2 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
3. ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ใช้เงิน 135.8 ล้านปอนด์ ได้ 104 คะแนน = จ่ายไป 1.31 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
4. ฟูแล่ม ใช้เงิน 124.6 ล้านปอนด์ ได้ 90 คะแนน = จ่ายไป 1.38 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน 
5. แอสตัน วิลล่า ใช้เงิน 174 ล้านปอนด์ ได้ 117 คะแนน = จ่ายไป 1.49 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
6. เอฟเวอร์ตัน ใช้เงิน 113.6 ล้านปอนด์ ได้ 67 คะแนน = จ่ายไป 1.7 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
7. ลิเวอร์พูล ใช้เงิน 259.7 ล้านปอนด์ ได้ 131 คะแนน = จ่ายไป 1.98 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
8. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้เงิน 343.3 ล้านปอนด์ ได้ 152 คะแนน = จ่ายไป 2.26 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
9. บอร์นมัธ ใช้เงิน 183.7 ล้านปอนด์ ได้ 74 คะแนน = จ่ายไป 2.48 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
10. อาร์เซน่อล ใช้เงิน 375.6 ล้านปอนด์ ได้ 148คะแนน = จ่ายไป 2.54 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
11. นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ใช้เงิน 296.7 ล้านปอนด์ ได้ 111 คะแนน = จ่ายไป 2.67 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
12. วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอส์ ใช้เงิน 236.8 ล้านปอนด์ ได้ 82 คะแนน = จ่ายไป 2.89 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
13. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เงิน 384.2 ล้านปอนด์ ได้ 122 คะแนน = จ่ายไป 3.15 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
14. ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ใช้เงิน 373.3 ล้านปอนด์ ได้ 113 คะแนน = จ่ายไป 3.3 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
15. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ใช้เงิน 294.2 ล้านปอนด์ ได้ 84 คะแนน = จ่ายไป 3.5 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
16. น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ใช้เงิน 265.4 ล้านปอนด์ ได้ 63 คะแนน = จ่ายไป 4.21 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน
17. เชลซี ใช้เงิน 966.9 ล้านปอนด์ ได้ 83 คะแนน = จ่ายไป 11.65 ล้านปอนด์ต่อ 1 คะแนน

About Author