ชาโลบาห์ กับการเติมเต็มความใฝ่ฝัน
เทรฟโวห์ ชาโลบาห์ ออกสตาร์ตฤดูกาลแรกในฐานะนักเตะทีมเชลซีชุดใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง
ในบทสัมภาษณ์กับหนังสือแมตช์เดย์ของเชลซี กองหลัง วัย 22 ปี ได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ทำให้เขามีความพร้อมที่จะแจ้งเกิดกับสิงห์บลูส์
ถือเป็นช่วงเวลาที่วิเศษสำหรับคุณ เพราะว่าคุณได้ลงเดบิวต์ให้กับเชลซี, คว้าถ้วยรางวัลใบแรก และยิงประตูแรกให้กับสโมสร คุณอยากเล่าถึงประสบการณ์ทั้งหมดเหล่านั้นอย่างไร?
สำหรับผม มันแสดงให้เห็นถึงการทำงานหนักทุกอย่างที่ผมได้ทำลงไป ทั้งออกไปเล่นแบบยืมตัว, ลงเล่นในลีกต่าง ๆ, ร่วมงานกับโค้ชใหม่ ทุกอย่างมันคือเรื่องของการเรียนรู้ครับ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัย และผมก็มีความสุขกับการผจญภัยนี้ สิ่งดังกล่าวทำให้มันดียิ่งขึ้นไปอีก
ความฝันของผมคือการลงเล่นให้เชลซีมาเสมอ การได้รับโอกาสภายในทีม ซึ่งเส้นทางตั้งแต่ตอนที่ผมเริ่มต้น จนมาถึงจุดนี้ถือว่าน่าเหลือเชื่อมาก ๆ อย่าว่าแต่การคว้าแชมป์ใบแรกกับสโมสรตั้งแต่วัยเด็กเลย ผมไม่ได้คาดหมายว่าจะได้ลงตัวจริงในซูเปอร์ คัพด้วยซ้ำ มันสุดยอดมากครับ จากนั้นพอได้ลงเล่นนัดแรกและยิงประตูแรกในพรีเมียร์ ลีกเนี่ย… คือมันเป็นความใฝ่ฝันมาเสมอในการลงเล่นพรีเมียร์ ลีก และผมก็ได้เติมเต็มเรื่องดังกล่าว แถมยังปิดท้ายด้วยการทำประตู ถือเป็นช่วงเวลาที่เหลือเชื่อจริง ๆ ตั้งแต่ผมลงประเดิมสนาม
คุณดูจะมีอารมณ์ตื้นตันสุด ๆ ตอนยิงประตูใส่คริสตัล พาเลซ เรื่องราวทั้งหมดเหล่านั้นมันส่งผลกับคุณใช่ไหม?
ใช่เลยครับ ตอนที่ผมเลี้ยงบอลขึ้นไป ผมตัดสินใจยิงเพราะได้ยินเสียงแฟนบอลตะโกนว่า “ซัดเลย!” ผมก็เลยลองกดดู แล้วก็ไม่รู้ว่ามันเป็นประตูจนได้ยินเสียงแฟนบอลเขาเฮกันนั่นละครับ
พอทำประตูได้นะ อารมณ์ความรู้สึกทั้งหมด, การทำงานหนักทั้งหมดที่ผ่านมา, ทุกอย่างที่ผมต้องเสียสละ, ช่วงเวลาที่ดีและแย่ ทุกอย่างมันพรั่งพรูออกมาหมดเลย นั่นเป็นสาเหตุที่ผมนั่งคุกเข่า มันคือการฉลองอย่างเดียวที่ผมสามารถทำได้
คุณผ่านการยืมตัวมาตลอดช่วง 3 ฤดูกาลหลังสุด คิดว่าแต่ละปีมีความก้าวหน้าหรือไม่?
แน่นอนครับ ผมย้ายยืมตัวครั้งแรกไปอยู่กับอิปสวิช ทีมของเรามีปัญหาและสุดท้ายก็ต้องตกชั้น แต่สุดท้ายแล้วคือผมได้ลงสนาม 40 กว่านัดในการย้ายยืมตัวครั้งแรก นั่นถือเป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้ผมได้เรียนรู้ คือบางครั้งคุณก็ต้องน้อมรับมันด้วยแนวทางนั้นนะ มันมีทั้งขาขึ้นและขาลงในวงการฟุตบอล ซึ่งสิ่งดังกล่าวมีแต่จะช่วยให้ผมแข็งแกร่งขึ้น
การยืมตัวครั้งถัดมากับฮัดเดอร์สฟิลด์ก็เหมือนกัน ผมคิดว่าการยืมตัวทั้งหมดของผมเป็นแบบนั้นเลย คือต้องสู้เพื่อให้รอดพ้นการตกชั้น และทุกปีผมก็ทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ มันช่วยให้ผมแกร่งขึ้น ทำให้ผมเข้มแข็งขึ้น ซึ่งผมไม่มีทางเอาคืนกลับไปแน่ เพราะว่าหากคุณต้องการเรียนรู้ บางครั้งคุณก็ต้องผ่านเรื่องแบบนั้น ซึ่งมันช่วยให้ผมกลายเป็นนักเตะอย่างในทุกวันนี้
คุณได้เรียนรู้อะไรจากการลงเล่นให้ลอริยงต์ ในลีกสูงสุดประเทศฝรั่งเศสเมื่อฤดูกาลที่แล้ว?
ผมคิดว่าฝรั่งเศสเป็นจุดสูงสุดในพัฒนาการของผมสู่ระดับนี้ การได้ลงเล่นในลีกแบบนั้น ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ลีกชั้นนำ ได้แข่งขันกับเปแอสเช, ลียง และทีมท็อปต่าง ๆ เรื่องพวกนั้นมันช่วยให้ผมกลับมาลุยต่อในฤดูกาลนี้
ผมได้ลงเล่นเยอะมาก ลงเล่น 2 ตำแหน่งด้วยครับซึ่งมันช่วยได้เยอะเลย ผมได้เผชิญหน้ากับนักเตะระดับโลกอย่างเนย์มาร์ และคีเลียน เอ็มบัปเป้ ดังนั้นการยืมตัวครั้งนี้มันช่วยให้ผมพัฒนา และเรียกความเชื่อมั่นเข้ามา
เมื่อคุณกลับมาอยู่กับเชลซีในซัมเมอร์นี้ มันชัดเจนหรือเปล่าว่าคุณกำลังผลักดันแย่งตำแหน่งในทีมชุดใหญ่?
ตอนที่ผมกลับมาครั้งแรก เรื่องที่ช่วยได้มากก็คือนักเตะคนอื่นไปเล่นยูโรกัน แล้วก็ได้พักหลังจากนั้น ซึ่งมันช่วยให้พวกผู้เล่นที่ย้ายไปแบบยืมตัว มีโอกาสในการสร้างความประทับใจและฝึกซ้อมร่วมกับชุดใหญ่
ความคิดแรกของผมคือการเรียกความฟิตให้ตัวเอง เพื่ออะไรก็ตามที่มันจะเกิดขึ้น
ตอนนั้นผมมองถึงโอกาสที่จะไปเล่นแบบยืมตัว เซ็นสัญญาย้ายยืมตัวกับอีกหนึ่งสโมสร แต่ในเวลาเดียวกันผมก็คิดนะว่าผมอาจจะพิสูจน์ให้ผู้จัดการทีมเห็นว่าผมมีดีแค่ไหนและผมพัฒนาขึ้นมาแค่ไหน ผมแค่ซ้อมหนักที่สุดน่ะไม่ว่าจะได้ลงเล่นหรือไม่ก็ตาม ผมทุ่มเททุกอย่าง ก็เห็นชัดเลยว่าการทำแบบนั้นมันช่วยผมได้
หากคุณเป็นนักเตะที่ได้ลงเล่นมากที่สุดและทำผลงานได้ดี สิ่งนี้มันก็ช่วยให้ผู้จัดการทีมเกิดความเชื่อมั่นในการส่งคุณลงสนามต่อเนื่อง เขาเห็นว่าผมซ้อมพิเศษเพื่อเรียกความฟิตนอกจากการซ้อมปกติและเมคชัวร์ว่าผมมีความพร้อม ผมอยากแสดงให้เห็นว่าผมแข็งแกร่งแค่ไหน และผมสามารถปรับตัวเองเข้ากับการแข่งขันในระดับสูงได้อย่างไรในเกมแล้วเกมเล่า เรารู้กันดีว่าพรีซีซั่นมันยากแค่ไหน และผมก็ทุ่มเททำงานหนักเพื่อให้ร่างกายของตัวเองพร้อมสำหรับสิ่งดังกล่าว
โมเม้นต์ซึ่งเป็นที่สุด ในประสบการณ์เท่าที่ผ่านมากับพรีเมียร์ ลีกของคุณคืออะไร?
ผมคงต้องตอบว่าการประเดิมสนามพรีเมียร์ ลีกนี่ละครับ ผมไม่คิดว่าจะได้ลงตัวจริง แต่พอได้ลงเล่น ได้ช่วยทีมคว้าชัยชนะ และยิงประตูได้ด้วย มันเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก ๆ
ผมรู้ว่าจะได้ออกสตาร์ตตอน 2 ชั่วโมงเป๊ะก่อนเกมเลย เหมือนกับซูเปอร์ คัพเลยครับ ผมเห็นชื่อของตัวเองบนหน้าจอ แล้วก็นึกในใจว่า “ว้าว” ผมแทบไม่อยากเชื่อเลย หัวใจเต้นรัวมาก แต่ในเวลาเดียวกันผมรู้สึกมีความสุขสุด ๆ ผมแทบรอไม่ไหวที่จะได้ก้าวเท้าลงสนาม และแสดงให้เห็นว่าผมทำอะไรได้บ้าง
นักเตะคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาดีใจกับประตูของคุณเร็วที่สุดคือโทนี่ รูดิเกอร์ ซึ่งเขาบอกว่าพวกคุณมีเชื้อสายเซียร์ร่า ลีโอนเหมือนกัน คุณมีความผูกพันแบบเดียวกันไหม?
เราทั้งคู่มีเชื้อสายเซียร์ร่า ลีโอนครับ และตอนเข้าย้ายมาอยู่กับเชลซี พี่ชายของผมก็อยู่ที่นี่ พี่ของผมเล่าเรื่องผมให้เขาฟัง ดังนั้นโทนี่จึงเป็นคนดูแลผมตอนที่พี่ชายของผมย้ายออกไป และเขาก็มีบทบาทสำคัญกับผมด้วย เพราะเขารู้ว่าผมเป็นนักเตะที่ดี เขาบอกให้ผมมุ่งมั่นเอาไว้ ต้องถ่อมตัวหมั่นฝึกซ้อมแล้วเดี๋ยวก็จะแจ้งเกิดได้เอง
ดังนั้นผมจึงขอบคุณเขาที่เชื่อมั่นในตัวผม และมอบความไว้ใจให้กับผมเสมอ มันเป็นเรื่องที่วิเศษนะ ในการมีนักเตะซีเนียร์แบบนั้น ซึ่งผ่านการลงเล่นในระดับท็อปให้ความเชื่อมั่นในตัวคุณ ผมสนิทกับโทนี่มาก ๆ เขาช่วยผมในเรื่องเกมการเล่น เขาคอยตะโกนสั่งและทำทุกอย่างแนว ๆ นั้น! แต่คุณต้องการผู้เล่นลักษณะดังกล่าวที่เชื่อมั่นในตัวคุณ และเรียกร้องสิ่งที่ดีที่สุดจากคุณ
ที่มา www.chelseafc.com/th